เมนู

11. ปโรสตวรรค


1. ปโรสตชาดก


คนมีปัญญาคนเดียวกว่าคนโง่เขลาตั้งร้อย


[ 101 ] คนโง่เขลามาประชุมกัน แม้ตั้งร้อยคน
ขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่งดูอยู่ตั้งร้อยปี
ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมี
ปัญญา คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า.

จบ ปโรสตชาดกที่ 1

อรรถกถาปโรสตวรรคที่ 11


อรรถกถาปโรสตชาดกที่ 1


ชาดกเรื่องนี้ มีคาถา ความว่า :-
"คนโง่เขลามาประชุมกัน แม้ตั้งร้อยคน
ขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่งดูอยู่ตั้งร้อยปี
ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมี
ปัญญา คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า"
ดังนี้.
เหมือนกันกับปโรสหัสสชาดก โดยเนื้อเรื่อง โดยไวยากรณ์
และโดยประชุมชาดก แต่ในชาดกนี้ มีแปลกเพียงบท ฌาเยยฺยุ


บทเดียวเท่านั้น. คาถานั้นมีอรรถาธิบายว่า คนเหล่านั้น ไม่มี
ปัญญา พึงเพ่ง พึงดู พึงใคร่ครวญแม้ตลอดร้อยปี แม้ว่าจะดูอยู่
อย่างนี้ ก็ย่อมไม่เห็นเหตุหรือผล เหตุนั้น ผู้ใดรู้เนื้อความแห่ง
คำที่เรากล่าวไว้ได้ ผู้นั้นคนเดียวเท่านั้น มีปัญญา ประเสริฐกว่า
ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาปโรสตชาดกที่ 1

2. ปัณณิกชาดก


ว่าด้วยที่พึ่งที่โทษ


[102] "ยามเมื่อฉันมีทุกข์ ผู้ใดเล่าเป็นที่พึ่ง
ท่านผู้นั้นคือบิดาของฉัน กำลังประทุษร้ายฉัน
ในป่า ฉันจะร้องหาใครในกลางป่า ท่านผู้จะช่วย
ได้กลับทำกรรมอันสาหัสเสียเอง"

จบ ปัณณิกชากดกที่ 2

อรรถกถาปัณณิกชาดกที่ 2


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภอุบาสกพ่อค้าผักผู้หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มี
คำเริ่มต้นว่า โย ทุกฺขผุฏฺฐาย ภเวยฺย ตาณํ ดังนี้.
ได้ยินว่า อุบาสกชาวเมืองสาวัตถีนั้น ขายผักต่าง ๆ มี
ฝักข้าวเป็นต้น และผักผลมีน้ำเต้า และผักเป็นต้นเลี้ยงชีวิต
เขามีธิดาคนหนึ่ง รูปร่างงดงาม แจ่มใส สมบูรณ์ด้วยมารยาท
และความประพฤติ ประกอบด้วยหิริโอตตัปปะ เสียอย่างเดียวที่
ชอบหัวเราะหน้ารื่นอยู่เสมอ เมื่อสกุลที่คู่ควรพากันมาสู่ขอนาง
เขาคิดว่า การสู่ขอรายนี้กำลังดำเนินไป ส่วนลูกสาวเราคนนี้
หัวเราะหน้ารื่นอยู่เป็นประจำ ก็เมื่อนางกุมารียังไม่มีสมบัติ